three white enclosed trailers

สำหรับผู้ส่งออก การบริหารจัดการความเสี่ยงคือหัวใจสำคัญของการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องจัดการกับสินค้าที่ไม่ได้บรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ เช่น สินค้าเทกอง หรือเครื่องจักรขนาดใหญ่ การเลือกใช้เทอม FAS (Free Alongside Ship) สามารถเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วย “ตัดจบ” ความเสี่ยงของผู้ส่งออกได้อย่างชัดเจน ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการยกของขึ้นเรือที่ซับซ้อน

บทความนี้จะวิเคราะห์เทอม FAS จากมุมมองของ “ผู้ส่งออก” เพื่อให้เห็นว่าการจำกัดความรับผิดชอบไว้ที่ “ข้างเรือ” นั้นมีประโยชน์อย่างไร และมีความท้าทายอะไรที่คุณต้องเตรียมพร้อม

ข้อดีของการเสนอราคาเทอม FAS สำหรับผู้ส่งออก (Advantages for the Exporter)

  1. ไม่ต้องรับความเสี่ยงในการโหลดสินค้าขึ้นเรือ (No Risk During Loading): นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดเมื่อเทียบกับเทอม FOB กระบวนการยกสินค้าจากหน้าท่า (Quay) ขึ้นไปวางบนเรือเป็นขั้นตอนที่อันตรายและมีความเสี่ยงสูงต่อความเสียหาย ภายใต้เทอม FAS ความเสี่ยงทั้งหมดในขั้นตอนนี้เป็นของผู้ซื้อ ภาระหน้าที่ของผู้ส่งออกสิ้นสุดลง ณ จุดที่ชัดเจนและจับต้องได้บนพื้นท่า
  2. ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการโหลด (Not Responsible for Loading Costs): ค่าใช้จ่ายในการขนถ่ายสินค้าขึ้นเรือ (Stevedoring charges) ซึ่งมักจะรวมค่าเครน, ค่าแรงงาน, และค่าอุปกรณ์ต่างๆ อาจมีราคาสูงและผันผวน การใช้เทอม FAS ช่วยให้ผู้ส่งออกไม่ต้องนำต้นทุนส่วนนี้มาคำนวณ ทำให้การเสนอราคาง่ายขึ้น
  3. กระบวนการส่งมอบไม่ซับซ้อน: หน้าที่หลักของผู้ส่งออกคือดำเนินพิธีการศุลกากรขาออก และนำสินค้าไปส่งมอบ ณ จุดที่กำหนดข้างเรือให้ตรงเวลา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนน้อยกว่าการต้องเข้าไปบริหารจัดการหรือดูแลการนำของขึ้นเรือด้วยตนเอง

ข้อเสียและความท้าทายของเทอม FAS ที่ผู้ส่งออกต้องเจอ (Disadvantages and Challenges for the Exporter)

  1. ต้องประสานงานเรื่องเวลากับเรือของผู้ซื้ออย่างแม่นยำ (Requires Precise Synchronization with the Buyer’s Vessel): ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของผู้ส่งออกคือ “การบริหารเวลา” คุณต้องนำสินค้าไปส่งมอบข้างเรือให้พอดีกับจังหวะที่เรือของผู้ซื้อเข้าเทียบท่าและพร้อมที่จะทำการโหลด
    • หากคุณส่งของไปถึง เร็วเกินไป และเรือยังไม่มา คุณอาจต้องเสียค่าจัดเก็บรักษาสินค้าที่ท่าเรือ
    • หากคุณส่งของไปถึง ช้าเกินไป อาจทำให้เรือของผู้ซื้อต้องรอ ซึ่งจะเกิดค่าเสียเวลาของเรือ (Demurrage) ที่ผู้ซื้ออาจเรียกร้องให้คุณเป็นผู้รับผิดชอบ
  2. อาจไม่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ซื้อทั่วไป: ผู้ซื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะรายที่ไม่มีประสบการณ์กับสินค้าเทกอง มักจะคุ้นเคยและต้องการความสะดวกสบายจากเทอม FOB ที่ผู้ขายจัดการเรื่องการโหลดให้ การเสนอขายแค่เทอม FAS อาจทำให้คุณจำกัดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่แค่ผู้ซื้อที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น
  3. จำกัดเฉพาะการขนส่งทางน้ำ: FAS เป็นเทอมเฉพาะทางที่ไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการขนส่งรูปแบบอื่นได้

ตัวอย่างสถานการณ์: ผู้ส่งออกข้าวสารบรรจุกระสอบ

บริษัทส่งออกข้าวของไทย ได้รับคำสั่งซื้อข้าวสารจำนวนมากจากผู้นำเข้ารายใหญ่ในแอฟริกา ซึ่งผู้นำเข้าได้เช่าเหมาลำเรือสินค้าเทกอง (Bulk Carrier) มารับสินค้าเอง

  • กลยุทธ์: ผู้ส่งออกไทยไม่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครนของท่าเรือเพื่อโหลดกระสอบข้าวจำนวนมากขึ้นเรือ จึงเสนอขายในเงื่อนไข FAS Ko Si Chang, Thailand
  • กระบวนการ:
    • บริษัทไทยดำเนินพิธีการส่งออก และใช้เรือลำเลียง (Barge) ขนส่งกระสอบข้าวจากโรงสีไปยังจุดจอดเรือใหญ่ที่เกาะสีชัง
    • เมื่อเรือลำเลียงไปจอดเทียบ “ข้างเรือ” ใหญ่ของลูกค้า ภารกิจและความเสี่ยงของผู้ส่งออกก็สิ้นสุดลง
    • จากนั้น ทีมงานบนเรือใหญ่ของลูกค้า (ผู้ซื้อ) จะใช้เครนของเรือเองในการยกกระสอบข้าวจากเรือลำเลียงขึ้นไปจัดเก็บบนเรือใหญ่
  • ประโยชน์ที่ได้รับ: ผู้ส่งออกไทยสามารถตัดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในขั้นตอนการยกสินค้าที่ตนเองไม่ถนัดออกไปได้ทั้งหมด ทำให้สามารถคำนวณต้นทุนและบริหารจัดการธุรกิจของตนเองได้ง่ายขึ้น

บทสรุปสำหรับผู้ส่งออก

FAS เป็นทางเลือกเชิงกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ต้องการขีดเส้นความรับผิดชอบของตนเองให้ชัดเจนและสิ้นสุดลงก่อนขั้นตอนการโหลดที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง แม้จะต้องอาศัยการประสานงานด้านเวลาที่แม่นยำ แต่ผลตอบแทนในแง่ของการลดความเสี่ยงนั้นมีนัยสำคัญอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับเทอม FOB

©2025 exptblog.com | the logistics blog and podcast

CONTACT US

We're not around right now. But you can send us an email and we'll get back to you, asap.

Sending

Log in with your credentials

Forgot your details?