สำหรับผู้ส่งออก การบริหารจัดการความเสี่ยงคือหัวใจสำคัญของการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องจัดการกับสินค้าที่ไม่ได้บรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ เช่น สินค้าเทกอง หรือเครื่องจักรขนาดใหญ่ การเลือกใช้เทอม FAS (Free Alongside Ship) สามารถเป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่ช่วย “ตัดจบ” ความเสี่ยงของผู้ส่งออกได้อย่างชัดเจน ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการยกของขึ้นเรือที่ซับซ้อน
บทความนี้จะวิเคราะห์เทอม FAS จากมุมมองของ “ผู้ส่งออก” เพื่อให้เห็นว่าการจำกัดความรับผิดชอบไว้ที่ “ข้างเรือ” นั้นมีประโยชน์อย่างไร และมีความท้าทายอะไรที่คุณต้องเตรียมพร้อม
ข้อดีของการเสนอราคาเทอม FAS สำหรับผู้ส่งออก (Advantages for the Exporter)
- ไม่ต้องรับความเสี่ยงในการโหลดสินค้าขึ้นเรือ (No Risk During Loading): นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญที่สุดเมื่อเทียบกับเทอม FOB กระบวนการยกสินค้าจากหน้าท่า (Quay) ขึ้นไปวางบนเรือเป็นขั้นตอนที่อันตรายและมีความเสี่ยงสูงต่อความเสียหาย ภายใต้เทอม FAS ความเสี่ยงทั้งหมดในขั้นตอนนี้เป็นของผู้ซื้อ ภาระหน้าที่ของผู้ส่งออกสิ้นสุดลง ณ จุดที่ชัดเจนและจับต้องได้บนพื้นท่า
- ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการโหลด (Not Responsible for Loading Costs): ค่าใช้จ่ายในการขนถ่ายสินค้าขึ้นเรือ (Stevedoring charges) ซึ่งมักจะรวมค่าเครน, ค่าแรงงาน, และค่าอุปกรณ์ต่างๆ อาจมีราคาสูงและผันผวน การใช้เทอม FAS ช่วยให้ผู้ส่งออกไม่ต้องนำต้นทุนส่วนนี้มาคำนวณ ทำให้การเสนอราคาง่ายขึ้น
- กระบวนการส่งมอบไม่ซับซ้อน: หน้าที่หลักของผู้ส่งออกคือดำเนินพิธีการศุลกากรขาออก และนำสินค้าไปส่งมอบ ณ จุดที่กำหนดข้างเรือให้ตรงเวลา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนน้อยกว่าการต้องเข้าไปบริหารจัดการหรือดูแลการนำของขึ้นเรือด้วยตนเอง
ข้อเสียและความท้าทายของเทอม FAS ที่ผู้ส่งออกต้องเจอ (Disadvantages and Challenges for the Exporter)
- ต้องประสานงานเรื่องเวลากับเรือของผู้ซื้ออย่างแม่นยำ (Requires Precise Synchronization with the Buyer’s Vessel): ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของผู้ส่งออกคือ “การบริหารเวลา” คุณต้องนำสินค้าไปส่งมอบข้างเรือให้พอดีกับจังหวะที่เรือของผู้ซื้อเข้าเทียบท่าและพร้อมที่จะทำการโหลด
- หากคุณส่งของไปถึง เร็วเกินไป และเรือยังไม่มา คุณอาจต้องเสียค่าจัดเก็บรักษาสินค้าที่ท่าเรือ
- หากคุณส่งของไปถึง ช้าเกินไป อาจทำให้เรือของผู้ซื้อต้องรอ ซึ่งจะเกิดค่าเสียเวลาของเรือ (Demurrage) ที่ผู้ซื้ออาจเรียกร้องให้คุณเป็นผู้รับผิดชอบ
- อาจไม่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ซื้อทั่วไป: ผู้ซื้อจำนวนมาก โดยเฉพาะรายที่ไม่มีประสบการณ์กับสินค้าเทกอง มักจะคุ้นเคยและต้องการความสะดวกสบายจากเทอม FOB ที่ผู้ขายจัดการเรื่องการโหลดให้ การเสนอขายแค่เทอม FAS อาจทำให้คุณจำกัดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่แค่ผู้ซื้อที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น
- จำกัดเฉพาะการขนส่งทางน้ำ: FAS เป็นเทอมเฉพาะทางที่ไม่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการขนส่งรูปแบบอื่นได้
ตัวอย่างสถานการณ์: ผู้ส่งออกข้าวสารบรรจุกระสอบ
บริษัทส่งออกข้าวของไทย ได้รับคำสั่งซื้อข้าวสารจำนวนมากจากผู้นำเข้ารายใหญ่ในแอฟริกา ซึ่งผู้นำเข้าได้เช่าเหมาลำเรือสินค้าเทกอง (Bulk Carrier) มารับสินค้าเอง
- กลยุทธ์: ผู้ส่งออกไทยไม่มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครนของท่าเรือเพื่อโหลดกระสอบข้าวจำนวนมากขึ้นเรือ จึงเสนอขายในเงื่อนไข FAS Ko Si Chang, Thailand
- กระบวนการ:
- บริษัทไทยดำเนินพิธีการส่งออก และใช้เรือลำเลียง (Barge) ขนส่งกระสอบข้าวจากโรงสีไปยังจุดจอดเรือใหญ่ที่เกาะสีชัง
- เมื่อเรือลำเลียงไปจอดเทียบ “ข้างเรือ” ใหญ่ของลูกค้า ภารกิจและความเสี่ยงของผู้ส่งออกก็สิ้นสุดลง
- จากนั้น ทีมงานบนเรือใหญ่ของลูกค้า (ผู้ซื้อ) จะใช้เครนของเรือเองในการยกกระสอบข้าวจากเรือลำเลียงขึ้นไปจัดเก็บบนเรือใหญ่
- ประโยชน์ที่ได้รับ: ผู้ส่งออกไทยสามารถตัดความเสี่ยงและค่าใช้จ่ายในขั้นตอนการยกสินค้าที่ตนเองไม่ถนัดออกไปได้ทั้งหมด ทำให้สามารถคำนวณต้นทุนและบริหารจัดการธุรกิจของตนเองได้ง่ายขึ้น
บทสรุปสำหรับผู้ส่งออก
FAS เป็นทางเลือกเชิงกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ส่งออกสินค้าที่ไม่ใช่ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ต้องการขีดเส้นความรับผิดชอบของตนเองให้ชัดเจนและสิ้นสุดลงก่อนขั้นตอนการโหลดที่ซับซ้อนและมีความเสี่ยงสูง แม้จะต้องอาศัยการประสานงานด้านเวลาที่แม่นยำ แต่ผลตอบแทนในแง่ของการลดความเสี่ยงนั้นมีนัยสำคัญอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับเทอม FOB