turned on light crane

สำหรับผู้ส่งออกจำนวนมาก FOB (Free On Board) คือเทอมที่คุ้นเคยและถูกใช้งานมาอย่างยาวนานจนเปรียบเสมือน “ค่าเริ่มต้น” ในการเสนอราคาให้กับลูกค้าต่างชาติ ความเรียบง่ายที่ดูเหมือนว่า “แค่ส่งของขึ้นเรือก็จบ” นี้เองที่แฝงไปด้วยกับดักและความเสี่ยงสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การค้าส่วนใหญ่ดำเนินผ่านตู้คอนเทนเนอร์

บทความนี้จะวิเคราะห์เทอม FOB จากมุมมองของ “ผู้ส่งออก” เพื่อให้คุณตระหนักถึงความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ และแนะนำแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องและปลอดภัยกว่า

ข้อดีของการเสนอราคาเทอม FOB สำหรับผู้ส่งออก (Advantages for the Exporter)

  1. เป็นที่ยอมรับและเข้าใจง่าย: FOB เป็นเทอมสากลที่ผู้ซื้อส่วนใหญ่รู้จักดี ทำให้การเจรจาต่อรองไม่ซับซ้อน
  2. ความรับผิดชอบสิ้นสุดที่ท่าเรือ: ผู้ส่งออกไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของค่าระวางเรือ, ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางในทะเล, หรือความยุ่งยากในพิธีการนำเข้าของประเทศปลายทาง
  3. ควบคุมโลจิสติกส์ฝั่งของตนเอง: ผู้ส่งออกสามารถบริหารจัดการการขนส่งภายในประเทศไปยังท่าเรือ และกระบวนการนำของขึ้นเรือได้โดยใช้คู่ค้าที่ตนเองไว้วางใจ

“กับดัก” ของเทอม FOB: ความเสี่ยงมหาศาลที่ซ่อนอยู่กับตู้คอนเทนเนอร์

นี่คือประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ผู้ส่งออกทุกคนต้องทำความเข้าใจให้ขึ้นใจ ลองนึกภาพตามความเป็นจริงของการส่งออกสินค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์:

  1. วันจันทร์: คุณบรรจุสินค้าใส่ตู้, ซีลตู้, และนำตู้คอนเทนเนอร์ไปส่งมอบที่ลานวางตู้ (Container Yard – CY) ของสายเรือที่ท่าเรือแหลมฉบัง คุณได้รับเอกสารยืนยันการรับตู้
  2. วันพุธ: เรือที่ลูกค้าจองไว้มีกำหนดเข้าเทียบท่าและทำการยกตู้ของคุณขึ้นเรือ
  3. วันอังคาร: เกิดเหตุไม่คาดฝัน! มีอุบัติเหตุรถเครนทำงานผิดพลาด ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์อื่นตกลงมาทับตู้ของคุณ สินค้าภายในเสียหายทั้งหมด

ปัญหาคือใครรับผิดชอบ? ภายใต้เงื่อนไข FOB ความเสี่ยงจะยังไม่ถูกโอนไปให้ผู้ซื้อจนกว่าตู้สินค้าจะถูกยกไปวาง “บนเรือ” เรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นในวันอังคารนั้น เป็นความรับผิดชอบของผู้ส่งออก 100% แม้ว่าคุณจะไม่มีอำนาจควบคุมหรือดูแลตู้สินค้าที่อยู่ในลาน CY ได้เลยตั้งแต่วันจันทร์แล้วก็ตาม นี่คือ “ช่องว่างของความเสี่ยง” (Risk Gap) ที่อันตรายอย่างยิ่ง

ทางออกที่ถูกต้องและปลอดภัย: สำหรับสินค้าที่บรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ทุกชนิด (ทั้งแบบเต็มตู้ FCL และไม่เต็มตู้ LCL) ผู้ส่งออกควรยืนกรานใช้เทอม FCA (Free Carrier) โดยระบุจุดส่งมอบเป็น CY ของท่าเรือต้นทาง (เช่น FCA Laem Chabang Port, Thailand) เพราะความเสี่ยงจะถูกโอนไปให้ผู้ซื้อทันทีที่คุณส่งมอบตู้สินค้าให้แก่ผู้ควบคุมที่ลาน CY ในวันจันทร์

ตัวอย่างสถานการณ์: ผู้ส่งออกมะม่วงกระป๋อง

บริษัทส่งออกผลไม้กระป๋องของไทย ได้รับคำสั่งซื้อมะม่วงกระป๋องเต็มตู้คอนเทนเนอร์จากลูกค้าในเยอรมนี โดยในสัญญาซื้อขายระบุเป็นเทอม FOB Bangkok Port ตามความคุ้นเคย

  • สิ่งที่เกิดขึ้น: บริษัทนำตู้คอนเทนเนอร์ไปส่งที่ท่าเรือกรุงเทพฯ ในวันศุกร์เพื่อรอเรือที่จะมาในวันอาทิตย์ แต่ในคืนวันเสาร์เกิดฝนตกหนักผิดปกติและมีน้ำท่วมขังบริเวณลานวางตู้ ทำให้ตู้อื่นๆ ล้มมาทับตู้ของบริษัทจนบุบและสินค้าภายในอาจเสียหาย
  • การตระหนักรู้: ผู้จัดการฝ่ายส่งออกเพิ่งตระหนักว่า หากสินค้าเสียหาย บริษัทจะต้องรับผิดชอบเองทั้งหมด เพราะยังไม่ถึงกำหนดที่ตู้จะถูกยกขึ้นเรือ เขาจึงตัดสินใจว่า ในการซื้อขายครั้งต่อไปกับลูกค้าทุกราย จะต้องเปลี่ยนนโยบายของบริษัทเป็นการเสนอราคาแบบ FCA เท่านั้น เพื่อปกป้องธุรกิจจากความเสี่ยงที่ควบคุมไม่ได้

บทสรุปสำหรับผู้ส่งออก

แม้ FOB จะเป็นเทอมที่ยังคงมีประโยชน์สำหรับสินค้าเทกองและสินค้าขนาดใหญ่ที่ไม่ใส่ตู้คอนเทนเนอร์ แต่การนำมาใช้กับการค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์อย่างไม่ถูกต้อง คือการเปิดประตูให้ธุรกิจของคุณเผชิญกับความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น การปรับเปลี่ยนมาใช้ FCA คือเครื่องหมายของความเข้าใจ, ความเป็นมืออาชีพ, และการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดของผู้ส่งออกในยุคปัจจุบัน

©2025 exptblog.com | the logistics blog and podcast

CONTACT US

We're not around right now. But you can send us an email and we'll get back to you, asap.

Sending

Log in with your credentials

Forgot your details?