ขั้นตอนการนำเข้าเครื่องสำอางนั้นเป็นขั้นตอนที่ถูกกำหนดมาค่อนข้างจะรัดกุมมาก ซึ่งการที่มีขั้นตอนตรวจสอบเหล่านี้ ก็เพื่อให้แน่ใจว่าเรานำเข้าสินค้าที่ขออนุญาตมาจริง ๆ นั่นเอง
อย่างที่เราทราบว่าก่อนที่เราจะนำเข้าสินค้าจำพวก ของกิน เครื่องสำอาง หรือ ยารักษาโรค ต้องมี อย. ก่อนนำเข้า แต่ขั้นตอนก็ไม่ได้จบเพียงแค่นั้น เพราะเมื่อจะนำเข้ามายังต้องมีขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสารและแจ้งการนำเข้าด้วยทุกครั้ง โดยขั้นตอนจะแบ่งเป็นหัวข้อย่อยดังนี้ครับ
นำเข้าเครื่องสำอางต้องจดแจ้งผลิตภัณฑ์
การจดแจ้งผลิตภัณฑ์นั้นเป็นขั้นตอนแรกที่ผมเคยเขียนไปก่อนหน้านี้แล้ว คุณสามารถกลับไปอ่านได้ที่ วิธีนำเข้าเครื่องสำอาง ครับ เมื่อเราได้เลขจดแจ้งเครื่องสำอางแล้ว เราก็จบขั้นตอนที่ 1 เรียบร้อยครับ
การแจ้งการนำเข้าต่อ อย.
หลังจากที่ได้เลขจดแจ้งแล้วเราก็สั่งของได้ แต่เมื่อสินค้ามาถึงไทย ก่อนที่จะทำพิธีการเคลียสินค้าขาเข้าได้นั้น เราต้องทำการแจ้ง อย. ก่อนว่าเราจะมีการเคลียสินค้าที่เราได้ไปจดแจ้งกับทาง อย. ไว้แล้ว หมายถึง เราต้องเอาเอกสารการนำเข้าไปในระบบ อย. ก่อน
นำสินค้าไปผ่านด่าน อย.
เมื่อ อย. ทราบแล้วว่าคุณมีสินค้าที่เป็นเครื่องสำอางมา ทางด่านตรวจสินค้าจะจัดการให้คุณผ่านด่าน อย. ก่อนถึงจะไปตรวจปล่อยสินค้ากับนายตรวจฯได้ การผ่านด่านนี้ก็จะต้องเอาสินค้าตัวจริง กับ ใบอนุญาตไปยื่นที่ด่าน ถ้าสินค้ากับใบอนุญาตตรงกันก็สามารถผ่านด่านได้ ซึ่งปัญหาที่พบเจอโดยมากของการผ่านด่าน อย. ก็คือสินค้าไม่ตรงกับที่ขออนุญาตไว้ ไม่ว่าจะเป็น ฉลากไม่ตรง ยี่ห้อสินค้าไม่ตรง การระบุข้อมูลผิดที่ผิดทาง เป็นต้นครับ
การตรวจปล่อยปกติ
หากคุณผ่านด่าน อย. มาได้แล้ว การผ่านด่านนี้ก็ไม่มีอะไรยาก เพราะ สินค้าที่ผ่าน อย. มาได้ แปลว่าสินค้าตรงตามจดแจ้ง ยกเว้นแต่ว่าจะมีอะไรซุกมาอีก เช่น พวกของแถมต่าง ๆ แบบว่าจะเอามาให้เราลองใช้อะไรแบบนี้ ถ้าจะแถมก็ให้ส่งพัสดุแยกมาต่างหากไปเลยนะครับ ไม่ต้องรวมมากับของที่สั่ง
สรุปแล้ว หลักใหญ่ใจความก็คือเรื่องเอกสารนี่แหละที่ทางกรมศุลฯและด่าน อย. จะซีเรียสมาก ๆ ถ้าการจดแจ้งมันผิดแต่ต้น ก็ไม่ควรดันทุรังเอาของไปผ่านพิธีการศุลกากรนะครับ