ณ ตอนนี้(2023) AI ยังสร้างผลกระทบไม่มากเท่าไหร่ แต่อีก 1-3 ปีอาจจะทำให้งานบางส่วนที่ต้องการคนกลางกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นได้
ในฐานะที่ผมลองใช้ AI ทั้งแบบที่วาดภาพอัตโนมัติ และ แบบที่ตอบโต้เป็นตัวหนังสือ มานิดหน่อย ผมบอกได้เลยว่า AI นั้นไม่ฉลาดไปกว่าคนเราแน่นอน ในตอนนี้มันยังคิดแบบต่อยอดไม่ได้ มันเรียนรู้จากฐานข้อมูลที่มีอยู่บนโลกนี้เท่านั้น และ แน่นอนว่า เมื่อมันไม่ใช่มนุษย์มันจึงยังขาดอีกหลายสิ่งอย่างที่จะทำให้มันมาแทนคน(เก่ง)ได้
สิ่งหนึ่งที่ AI ยังทำไม่ได้แน่ ๆ ในตอนนี้
“การรู้ถูกผิด”
หากใครได้ลองใช้ AI มาบ้างจะรู้ว่า AI นั้นไม่รู้ว่าความถูกต้องคืออะไร มันประมวลผลโดยขาดสามัญสำนึกถูกผิด มันมีแค่ทะเลข้อมูลอันหว้างใหญ่สำหรับการเรียยนรู้เท่านั้น ถ้าโปรแกรมเมอร์ไม่เขียนโปรแกรมบังคับไว้ว่าห้ามตอบแบบนี้ แบบนั้นนะ มันก็จะให้ข้อมูลเราอย่างไม่มีการกลั่นกรองใด ๆ ทั้งสิ้น
เช่น
ผมเคยถามมันว่า การจ่ายใต้โต๊ะคืออะไร มันตอบว่า การจ่ายใต้โต๊ะนิยมใช้ในร้านขายของชำหรือร้านอาหาร เพราะมันจะปลอดภัยกว่าการจ่ายเงินบนโต๊ะมาก
555 เห็นแล้วใช่มั้ยครับ มันไม่รู้ว่าการจ่ายใต้โต๊ะคืออะไร
มันเอาระบบเก็บเงินของร้านสะดวกซื้อที่เอาเงินสดออกจากเครื่องคิดเงินไปเก็บไว้ใต้เคาเตอร์เวลาโจรมาปล้นก็จะกวาดไปได้แค่ที่มีอยู่ในเครื่องเท่านั้น
เหมือนเด็กน้อยคนนึงที่พูดจาน่าเชื่อถือเฉย ๆ
สิ่งที่มันจะทำได้ในตอนนี้คือ การเป็นที่ปรึกษาเท่านั้น มันสามารถหาและเรียนรู้ข้อมูลจากการทำงานร่วมกับเราได้ และเมื่อเราใช้มันเรื่อย ๆ มันก็จะเรียนรู้เรื่อย ๆ มันก็จะยิ่งเก่งขึ้นทุกวัน
เมื่อ AI อยู่ร่วมกับเรานานเข้ามันก็อาจจะเข้าใจว่าความจริงคืออะไร และ อะไรที่มันต้องทำเพื่อตอบสนองความคาดหวังของเราได้
และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างที่มันทำไม่ได้ในตอนนี้ คือ การมีความรับผิดชอบ ครับ
AI นั้นไม่สามารถถือครองทรัพสินได้ เมื่อมันไม่สามารถมีทรัพสินได้มันก็ขาดความน่าเชื่อถือครับ
คือถ้ามันไปทำให้ใครขาดทุนมันก็จะไม่สามารถชดเชยอะไรให้ได้เลย และ มันก็ไม่มีความคิดที่จะใช้คืนด้วยครับ มันไม่ต้องร้อนรน มันจะถูกลบ ถูกปิด มันก็ไม่กลัวครับ และที่แน่ ๆ คือ คนสร้าง AI ก็เขียนปฏิเสธความรับผิดชอบไว้แล้วตอนที่เราสมัครใช้
ดังนั้นแล้วมันก็สามารถลอยตัวเหนือความรับผิดชอบทั้งมวลได้
เหมือนมีกฎหมายนิรโทษกรรมติดตัวเป็นแพสซีพสกิล “ทำผิดเหรอ ปรับชั้นสิ ฆ่าชั้นเลย ทำไม่ได้เหรอ? ว๊าย ๆ” แบบนี้แหละครับ
สุดท้ายแล้ว มนุษย์ยังคงจะต้องเป็นคนสำคัญที่จะเลือกใช้ AI เท่านั้น
แต่ AI ก็คือสิ่งจำเป็น
เพราะ AI จะทำให้เราทำงานได้มากขึ้นและดีขึ้นอย่างแน่นอนครับ
สิ่งนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอฟันธงโดยเอาชื่อเสียงของลุงข้างบ้านเป็นประกันเลยนะครับ
ในอนาคต เราทุกคนจะต้องพึ่งพา AI กันมากขึ้น เพราะ มันจะทำงานที่เรียกว่างานสำหรับแรงงานขั้นพื้นฐานให้เราครับ
อย่าง AI วาดรูปในตอนนี้ มันก็มีหน้าที่ทำภาพที่นักวาดต้องการให้ออกมาเป็นจริงได้ง่ายขึ้น คือ มันสามารถร่างภาพที่นักวาดต้องการได้ ลงสีได้ โดยที่ศิลปินเจ้าของผลงานเป็นคนกำกับ พอได้ดราฟมาแล้วศิลปินก็มีหน้าที่เอาไปทำให้ออกมาอย่างที่จินตนาการไว้ให้มากกว่าเดิม เพื่อให้ออกมาเป็นผลงานสำเร็จ
งานนำเข้าส่งออกก็เช่นกัน มันมีเอกสารมากมายที่ต้องการคนกรอก และ AI จะเข้ามาทำส่วนนี้ในไม่ช้า เพราะทุกอย่างเริ่มย้ายมาบนออนไลน์กันหมดแล้วครับ แต่ว่าความเข้าใจในตัวเอกสารที่ต้องใช้ มนุษย์จะเป็นคนกำกับอยู่เบื้องหลัง และแน่นอนว่าเพื่อเป็นคนรับผิดชอบกับงานนั้น ๆ ด้วย
สรุป
ในอนาคต เราทุกคนคงจะมี AI เป็นของตัวเองอย่างน้อย 1 ตัว เพื่อเสริมศักยภาพในการทำงานและใช้ชีวิต
อย่างเช่น เราอาจจะมี AI สำหรับงานเอกสาร สร้างแบบฟอร์ม ทำตามขั้นตอน แล้วเราก็มีหน้าที่กดตกลง เพราะ AI นั้นไม่มีความสามารถในการรับผิดชอบ ต้องให้เรากดตกลง เวลาต้องโดน should be จะได้มีคนรับผิดชอบนะครับ 555
แบบนี้ก็จะกลายเป็นว่า อีกไม่นาน งาน CS หรือ DOCS ก็มีโอกาสจะกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นอีกต่อไป
แต่เซลส์น่าจะยังจำเป็นอยู่อีกนานจนกว่า AI จะพัฒนาทางด้านอารมณ์ได้มากขึ้น เพราะงานขายไม่สามารถใช้แค่ตรรกะอย่างเดียวได้ ต้องใช้ทั้งอารมณ์และเหตุผลร่วมกัน
อีกอย่างที่ผมไม่เชื่อว่า AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์แบบ 100% เพราะโลกทุนนิยมก็คงจะหมุนต่อไปไม่ได้ ถ้ามนุษย์ไม่มีงานทำ อันนี้ผมก็เชื่อว่ามันจะเป็นไปแบบนี้อีกนานมาก จนกว่า AI จะทำานเลี้ยงมนุษย์ได้ คือ ปลูกข้าว ปลูกผัก เลี่ยงวัว และ มนุษยเรามีหน้าที่ใช้ชีวิตไปวัน ๆ อ่ะครับ
AI ที่ผมมองเห็นก็จะประมาณนี้แหละครับ
อยากให้ทุกคนสนใจ AI แต่ก็ไม่ต้องตื่นตระหนกไปว่ามันจะมาแย่งงานเรา เพราะมันจะมาแย่งแน่ ๆ แต่แค่บางส่วนครับ