ผมได้เขียนบทความ “ทำ 1 งานที่มากกว่าอีก 1 งานคืองานของคนประสบความสำเร็จ” ไว้ซักพักใหญ่ ๆ แล้วครับ วันนี้ได้มีโอกาสทบทวนว่าที่ผ่านมาตัวเองได้สร้าง 1 งานที่มีคุณค่ามากกว่า 1 งานทั่วไปได้ยังไง ซึ่งสิ่งที่ผมทบทวนอกมาได้มีดังนี้ครับ
ปรับปรุงมัน
การทำงานด้วยวิธีใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือแค่คิดจะปรับปรุงก็ช่วยให้ 1 งานมีผลิตผลมากขึ้นแล้วครับ สมัยก่อนเรามีเครื่องคิดเลข ปากกา และสมุดบัญชี แต่ถ้าคุณปรับปรุงมันด้วยการสร้างแบบฟอร์มขึ้นมาใหม่หรือใช้ excel ช่วยทำ คุณก็จะทำงานได้เร็วขึ้นไปอีก
ตัวอย่างที่ชัดเจนอีกอย่างหนึ่งคือ การปรับปรุงตัวเองให้มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น เช่น ใช้เวลาในการทำงานทั่วไปให้น้อยลง หรือ หัดจดบันทึกการทำงานและวางแผนงานล่วงหน้าครับ
ทำเป็นทีม
ไม่ใช่แค่เอาหลาย ๆ คนมาทำงานชิ้นเดียว แต่ทำให้มันเป็นสายพานแบบประกอบรถน่าจะเป็นคำตอบที่ใกล้เคียงกับการทำงานเป็นทีมที่ให้ผลิตผลมากขึ้น การที่คุณเปลี่ยนอริยาบทหรือหน้าที่บ่อย ๆ จะทำให้คุณทำงานได้ช้าลง
ลองคิดดูแบบนี้ครับ ถ้าคุณต้องประกอบรถ 1 คันด้วยตัวคนเดียวคุณต้องอ้อมไปอ้อมมา เปลี่ยนอุปกรณ์ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ถ้าคุณถืออุปกรณ์ชิ้นเดียวและคนในทีมก็เช่นกัน พวกคุณทั้งหมดยืนรอบ ๆ ตัวรถและประกอบมันพร้อม ๆ กัน ลองคิดดูสิครับว่าด้วยจำนวนคนเท่ากันวิธีไหนได้จำนวนรถที่ประกอบเสร็จมากกว่ากัน?
เลิกทำสิ่งเดิม ๆ ไปเลย
จริง ๆ แล้วข้อ 1 คือกับดักอย่างหนึ่งของการที่ธุรกิจหรือชีวิตจะพบกับความล้มละลายได้เลย การปรับปรุงนั้นก็เหมือนการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ได้มองไปไกลกว่าจมูกของคุณเองเลย คุณพบว่าวิธีการของคุณยังพัฒนาได้ คุณจึงทุ่มเทพัฒนาวิธีการเก่า ๆ ให้ดียิ่งขึ้นไปและเรียกมันว่าความสำเร็จ แต่ 1 งานนั้นอาจจะไร้ค่าเมื่อโลกหมุนไปไกลกว่านั้นแล้วก็เป็นได้
การเลิกทำสิ่งเก่า ๆ ไปเลยก็เหมือนกับการขว้างโทรศัพท์บ้านทิ้งไปแล้วใช้สมาร์ทโฟนแทน
ลองคิดดูว่าถ้าคุณจะรับสายให้ได้ทุกสายด้วยโทรศัพท์บ้าน คุณก็ต้องนั่งเฝ้ามันตลอดไม่ได้ไปไหน แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นสมาร์ทโฟนแล้วคุณรับทุกสายได้แน่นอนเพราะมันไปกับคุณทุกที่
แล้วการทำงานของคุณละ? ยกตัวอย่างเช่นคุณอาจจะขายหน้าร้านอยู่เป็นประจำจนไม่มีวันหยุด แต่ถ้าคุณเปลี่ยนมาใช้ออนไลน์แทนล่ะ? คุณอาจจะได้ยอดขายเท่าเดิมที่เหนื่อยน้อยลง ลดวันเปิดร้านลงไปอีก แล้วไปใช้ชีวิตแบบคนมีเงินควรจะใช้กัน แบบนี้แหละที่ใช่เลย!
สำหรับผมแล้วทั้ง 3 รูปแบบนั้นเชื่อมโยงกันอย่างมีนัยยะสำคัญ คือต้องเริ่มที่ตัวเราทำได้ก่อน แล้วปรับปรุงมัน สร้างทีมขึ้นมา แล้วจึงค้นหาสิ่งใหม่ ๆ ถึงจะครบลูปได้ คุณคงไม่คิดอะไรใหม่ ๆ ได้ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยใช่มั้ยละครับ แต่อย่าลืมการทิ้งสิ่งที่สร้างมาเพื่อเริ่มสิ่งใหม่ให้ทันเวลา บางครั้งมันทำใจยากนะครับหลายคนและหลายธุรกิจเจ๊งมาแล้วเพราะทิ้งของเก่าไม่ลงนี่แหละครับ