เงินคือตัววัดผลไม่ใช่เป้าหมาย

ทำงานก็ต้องได้เงินใช่มั้ยละครับ ถ้าไม่ได้เงินตอบแทนก็คงจะไม่มีมืออาชีพอย่างแน่นอนเพราะถ้าไม่มีค่าตอบแทนคุณก็จะเช้าชามเย็นชาม ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็จะเหมือนกับประเทศคอมมิวนิสที่ทำงานได้เท่าไหร่เข้ารัฐหมดแล้วก็แบ่งให้ประชาชนเท่า ๆ กัน (แต่บางคนได้ค่าตอบแทนที่ดีก็เช้าชามเย็นชามอยู่ดี ถถถถ….!) เราทุกคนทำงานก็หวังจะได้เงินกันทั้งนั้นแล้วเราจะไม่ตั้งเป้าหมายของเราเป็นเงินเยอะ ๆ ได้ยังไงใช่มั้ยละครับ แต่จริง ๆ แล้วเงินก็คือเป็นตัววัดผลเท่านั้นเองครับ

จริง ๆ แล้วผลตอบแทนที่เราได้นั้น คือ การวัดความสามารถของเราด้วยเงิน

ถ้าคุณสร้างอะไรบางอย่างมาแข่งกับ Apple ได้ คุณคิดว่าคุณควรจะมีผลตอบแทนเท่าไหร่ครับ? คำถามนี้คุณน่าจะมองเห็นภาพแล้วว่ามีคนจ่ายเงินให้คุณเพราะคุณสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมได้ ไม่ใช่คุณไม่มีอะไรเลยแล้วจะมีคนมาให้เงินคุณเยอะ ๆ แบบนั้นไม่ใช่แน่นอนครับ

มีตัวอย่างการวัดคุณค่าที่น่าสนใจที่ผมอยากจะให้คิดกันนิดหนึ่งด้วยเหมือนกันนะครับ

ผมสร้างเพจขึ้นมาชื่อว่า Eximportal นำเข้าส่งออก ใช่มั้ยละครับ? ระหว่างผมกับชิปปิ้งทั่วไป คุณจะจ้างมาทำเพจในราคาเดียวกันมั้ยครับ? คุณย่อมจะจ้างผมด้วยเงินที่มากกว่าชิปปิ้งทั่วไปแน่นอน แต่ในทางกลับกันถ้าคุณจะจ้างคนมาทำงานตรวจปล่อยสินค้า คุณจะจ้างผมที่เป็นแอดมินเพจหรือจ้างชิปปิ้งทั่วไปแพงกว่ากัน?

ดังนั้นเวลาคุณจะให้ใครวัดคุณ คุณค่าที่คุณมีต้องเกี่ยวข้องกับเค้าแล้วค่าการวัดก็จะสูงขึ้น แล้วคุณจะได้ตัววัดผลที่เรียกว่าเงินสูงขึ้นตามกันไปครับ

สรุปสุดท้าย… คุณค่าที่เรามีนั้นมีเงินเป็นตัววัดสากลคอยวัดว่าเรามีคุณค่าเท่าใดอยู่เสมอ ถ้าเป้าหมายคือมีเงินมาก ๆ คุณควรจะเปลี่ยนเป็นตั้งเป้าพัฒนาตัวเองให้ได้มาก ๆ แล้วไปหาคนที่เหมาะสมจะวัดความสามารถคุณแทนเพราะไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการหรือลูกจ้างก็มีคนวัคุณค่าของคุณด้วยตัวเงินเสมอ ขอให้โชคดีทุกคนครับ :)