ในตอนนี้ทั่วโลกนั้นได้เริ่มใช้พิกัดอัตราศุลกากรของปี 2022 กันไปเป็นจำนวนมากแล้วซึ่งการเปลี่ยนถ่ายในสมัยนี้เป็นระบบฐานข้อมูล และ ต้องใช้ผ่านโปรแกรมหรือเวปไซต์ของทางราชการ ปัญหาที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือ กฎหมายนั้นบังคับให้ Form E ต้องระบุพิกัดศุลกากรของปี 2017 เท่านั้น จึงจะใช้ได้ แต่ว่าระบบออกฟอร์มอีของจีนนั้น เริ่มที่จะทยอยเปลี่ยนเป็นพิกัดศุลกากรของปี 2022 กันหมดแล้ว

ในช่วงต้นปี ถ้าใครที่ทำงานส่วนนี้อยู่โดยตรง จะเข้าใจเลยว่าเวลาออกฟอร์มจะใช้พิกัดศุลกากรพิกัดนึง แต่เวลาทำใบขนฯจะใช้อีกพิกัดหนึ่ง สร้างความงุนงงให้กับคนไม่รู้ในตอนแรกพอสมควร ส่วนผมต้องมีทำเพิ่มเป็น สมอ. ด้วย เวลาตรวจเอกสารให้ลูกค้าต้องเพิ่มความระมัดระวังเข้าไปอีก

ตอนต้นปีก็ไม่มีปัญหาอะไรนะครับ ทางจีนยังออกฟอร์มโดยใช้พิกัดศุลกากรของปี 2017 ได้อยู่ แต่ตอนนี้บางเมืองเริ่มจะไม่ได้แล้ว และก็น่าจะทยอยเป็นแบบนี้กันทุกเมือง

เบื้องต้น ผมได้ปรึกษากับทางกรมศุลฯ ได้รับข้อมูลมาตรงตามที่แจ้งไปว่าต้องใช้ของปี 2017 เท่านั้น หากไม่ใช้ของปี 2017 นั้นจะใช้ไม่ได้เลย อย่าพยายามดื้อใช้นะครับ ถ้าใช้ไปแล้วโดนจับปรับจะไม่คุ้มเอา เพราะ กฎหมายบังคับไว้แบบนั้น ซึ่งการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุดก็คงเป็นการแก้ไขกฎหมายเท่านั้น ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ ขึ้นชื่อว่ากฎหมาย ยกกำลังด้วย ระหว่างประเทศ ก็น่าจะใช้เวลานานพอสมควร

ทางเจ้าหน้าที่เลยแนะนำให้ติดต่อไปที่ ส่วนกฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า (สกก.) กองพิกัดอัตราศุลกากร (กพก.) เพื่อสอบถามการแก้ไขปัญหานี้เบื้องต้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำดีมากครับ ไม่กัด ยิ้มแย้มแจ่มใส อธิบายเข้าใจง่ายทีเดียว

เจ้าหน้าที่ได้ให้วิธีการแก้ไขไว้ตามนี้ครับ

ให้ทำหมายเหตุ แสดงพิกัดศุลกากรของปี 2017 โดยเทียบกับพิกัดศุลกากรของปี 2022 ไว้ว่าพิกัดใหม่นี้ตรงกับพิกัดเก่าอะไร โดยแสดงไว้ในช่องหมายเลข 7 ของฟอร์มอีเท่านั้น

เท่านี้ก็จะพอใช้กล้อมแกล้มไปจนกว่ากฎหมายใหม่จะออกแล้วครับ แต่แน่นอนว่ามันเป็นเพียงการแก้ไขเฉพาะหน้าเท่านั้น หากมีประกาศใหม่หรือข้อกำหนดใหม่ก็ต้องใช้ตามนั้น ทุกคนควรติดตามเรื่องนี้ไว้อย่างใกล้ชิดหน่อยนะครับ

Previous articleเงินบาทอ่อนค่า ผู้นำเข้าทำยังไงได้บ้าง?
เซลส์เฟรทฯ ผู้หันหลังให้กับ Tele-Marketing มาทุ่มเทให้กับการทำ Online Marketing แบบเต็มตัว