ในฐานะที่ผมก็เป็นเซลส์เฟรทตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่เป็นกังวลว่าจะหาทางต่อสู้แข่งขันได้อย่างไรในโลกที่ผู้ให้บริการทุกรายพยายามจะกดราคาแข่งกันทั้ง ๆ ที่มีเรื่องน่าจะทำกำไรและมีหนทางที่จะค้นหาลูกค้าใหม่ได้ในยุคดิจิทัลอยู่ตรงหน้าแท้ ๆ แต่การทำไม่เป็นจึงไม่ทำนั้นไม่ใช่คำตอบที่สร้างสรรค์นะครับ มันเป็นหายนะที่ก้าวคลานเข้ามาอย่างกระชั้นชิดเลยละครับ

ข้อบ่งชี้ว่าผู้ให้บริการนำเข้าส่งออกและชิปปิ้งไทยกำลังจะแย่เพราะดิจิทัล มีดังนี้ครับ

1. บรรดาสายเรือ(บริษัทเจ้าของเรือสินค้า) กำลังปรับให้ทำการจองตู้คอนเทนเนอร์ผ่านหน้าเวปไซต์ได้

2. คนรุ่นใหม่(Millennial อายุ23-34) ชอบดิจิทัล

3. การนำเข้าส่งออกกำลังขยายสู่คนรุ่นมิลเลนเนียลมากขึ้น อย่างเช่นธุรกิจพรีออเดอร์ หรือ ขายสินค้าออนไลน์

4. มิลเลนเนียลชอบความง่าย สะดวก ทันใจ ไม่ซับซ้อน

5. บริษัทต่างชาติกำลังพัฒนาให้บริการนำเข้าส่งออกและชิปปิ้งเป็นดิจิทัล

6. ระบบของราชการกำลังจะเป็นดิจิทัล เช่น Single window

แค่ 6 ข้อนี้ก็ทำให้ผู้ให้บริการนำเข้าส่งออกรุ่นปู่ทำกันมา ต้องร้อนๆหนาวๆกันแล้วครับ เพราะ สายเรือ หน่วยงานราชการ และบริษัทต่างชาติกำลังปรับตัวอยู่ตลอด การแข่งขันด้วยราคาก็เหมือนการที่ผู้ให้บริการแต่ละรายสู้กันเอง ตายกันเอง แล้วคนที่พัฒนาอยู่ตลอดก็จะมาชุบมือเปิบเอาลูกค้าไปง่าย ๆ

 

IMG_7012
ขอบคุณภาพจาก marketeer.co.th

จากอินโฟกราฟฟิกด้านบน แสดงให้เห็นว่าคนชาติต่างๆกำลังจะเป็นพลเมืองดิจิทัลกันแล้ว และถ้าคุณเปิดเวปนี้ด้วยสมาร์ทโฟน คุณก็เป็นหนึ่งในพลเมืองดิจิทัลด้วยเช่นกัน เท่าที่ผมเห็นรายงานสถิติต่าง ๆ สมาร์ทโฟนกำลังจะเป็นอวัยวะส่วนที่ 33 ของคน ซึ่งไม่บอกก็น่าจะพอเห็นกันว่าหันไปทางไหนก็เจอใช่มั้ยละครับ

ส่วนสถิติจาก DAAT.in.th แสดงการใช้โซเชียลมีเดียในปี 2014 ผ่านสมาร์ทโฟนก็สูงมาก มีคนใช้เฟสบุ๊คในไทย 30 ล้านคนเมื่อปี 2014 ในจำนวนนั้นมีการใช้ผ่านมือถือ 28 ล้านคน และใช้งานทุกวัน 19.8 ล้านคน

คนจำนวนนี้อาจจะเป็นวันรุ่นเสียส่วนใหญ่ แต่ถ้าเราลองคิดกันดูว่ามีลูกค้า 30 ล้านคน จะมีคนขายสินค้ากี่คน? แล้วคนขายสินค้าเหล่านั้นคือผู้นำเข้าส่งออกกี่คน แล้วคุณได้พบเจอผู้ให้บริการนำเข้าส่งออกที่มีการสร้างตัวตนบนเฟสบุ๊คซักกี่ราย? ผมสำรวจมาก็เจอเพียง 4-5 รายเท่านั้นเองครับ! ส่วนที่เห็นเปิดเพจกันให้เกลื่อน ส่วนมากเป็นพวกเหมากิโล เหมาภาษี ซึ่งอยู่ในกลุ่มไม่มีใบเสร็จ ผู้ให้บริการเหล่านั้นจริง ๆ เป็นแค่ตัวแทนขายและก็ขนส่งโดยผู้ให้บริการไม่กี่รายเองครับ

แต่เศรษฐกิจดิจิทัลก็ไม่ใช่โซเชียลมีเดียเท่านั้น มันหมายถึงทุกกิจกรรมจะถูกย้ายไปทำบนอินเทอร์เน็ตต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร ข้อมูล การติดต่อสื่อสาร ฯลฯ สุดแต่จะเกี่ยวข้อง จะย้ายไปบนอินเทอร์เน็ตทั้งหมด แล้วทุกวันนี้….. ชิปปิ้งหรือบริษัทให้บริการนำเข้าส่งออกของไทย ใช้มากกว่า E-Mail กันแล้วหรือยังครับ?

Previous article17 เรื่องนำเข้าส่งออกที่คุณอาจไม่รู้
Next articleวิธีคิดภาษีนำเข้า
เซลส์เฟรทฯ ผู้หันหลังให้กับ Tele-Marketing มาทุ่มเทให้กับการทำ Online Marketing แบบเต็มตัว