การ “ลากตู้” หรือการทำการ “ขนส่งหน้าตู้” ภายในท่าเรือนั้นเกี่ยวข้องกับการวางแผนการขนส่งสินค้าของคุณเองครับ ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ยังไม่เคยนำเข้าสินค้ามาแบบเต็มตู้คอนเทนเนอร์คงจะไม่รู้ว่าการนำสินค้าออกจากท่าเรือทำได้สองแบบ หรือบางคนอาจจะรู้แต่คิดว่าทำได้ง่ายดายและไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรนั้นมีอยู่เยอะทีเดียวครับ

การลากตู้ หรือ ขนส่งหน้าตู้ นั้นต้องทำการแจ้งไปยังผู้ให้บริการขนส่งหรือตัวแทนขนส่ง(เฟรท/ชิปปิ้ง) ตอนที่เรือได้ออกจากท่าต้นทางมาแล้วหรือก็คือเมื่อคุณได้ B/L, Bill of lading มาแล้วนั่นเองครับ

แนะนำให้อ่าน: Bill of lading(B/L) ที่ผู้นำเข้าส่งออกต้องรู้

ลากตู้

สถานะ “ลากตู้” จะมีลักษณะคือ รถหัวลากที่เราได้ว่าจ้างไว้จะทำการรับตู้สินค้าแล้วนำออกมาจากท่าเรือ แล้วเราจะเลือกให้รถไปส่งไปส่งสินค้าที่ไหนก็ตามแต่เราจะกำหนด

ขนส่งหน้าตู้

ลักษณะของการขนส่งหน้าตู้คือ สายเรือจะยกตู้สินค้ามาที่ลานเปิดตู้ แล้วเราก็นำรถบรรทุกของเราเข้าไปขนถ่ายสินค้าจากตู้ที่ลานนั้นครับ เมื่อคุณแจ้งสถานะ “ขนส่งหน้าตู้” ผู้ให้บริการขนส่งจะถามว่าจะใช้ “แรงงานเรือ” หรือจะใช้ “แรงงานของเราเอง” ซึ่งตามประสบการณ์ของผม ผมขอแนะนำให้ใช้ “แรงงานเรือ” จะดีที่สุด เพราะมีทั้ง Forklift และคนงานพร้อมครับ

การใช้สถานะขนส่งหน้าตู้จะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการลากตู้อยู่ราว ๆ 5,000 บาท เพราะต้องมีการใช้ลานถ่ายสินค้า อุปกรณ์ และแรงงานเพิ่มเติม แต่ในบางสายเรือจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่านี้มากเพราะไม่มีลานเปิดตู้เป็นของตัวเอง

ในเทอม CFR(CNF) คุณอาจจะต้องตรวจสอบเองว่าสายเรือไหนมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ โดยการโทรเช็คกับแต่ละสายเรือ จากนั้นจึงจะแจ้งให้ทางผู้ส่งออกเลือกใช้สายเรือนั้นครับ

แต่ในเทอมขนส่ง EXW หรือ FOB คุณอาจจะขอให้ทางเฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์หรือชิปปิ้งที่คุณใช้บริการจัดการตรวจสอบสายเรือให้ได้ ผมแนะนำว่าถ้าต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายควรเลือกใช้ FOB หรือ EXW นี่แหละครับดีที่สุด

ลากตู้-ขนส่งหน้าตู้

เมื่อไหร่ที่จะใช้ “ลากตู้” หรือ “ขนส่งหน้าตู้” ?

ผู้ประกอบการนำเข้าส่วนใหญ่จะใช้การลากตู้เป็นปกติ เพราะมีค่าใช้จ่ายในท่าเรือถูกกว่าการใช้ขนส่งหน้าตู้แน่นอน แต่ในบางกรณีที่ไม่ปกติอย่างเช่น ทางเข้าโรงงานมีขนาดเล็กและรถหัวลากไม่สามารถเข้าได้ ก็จำเป็นจะต้องใช้การขนส่งหน้าตู้ทำการถ่ายสินค้าขึ้นรถที่เล็กกว่าเพื่อให้เข้าไปส่งของได้ เป็นต้น

มีกรณีตัวอย่างของลูกค้าผมรายหนึ่งครับ สินค้าเป็นเครื่องจักรที่ใหญ่และหนักจึงเลือกใช้การขนส่งหน้าตู้ ถ่ายสินค้าจากตู้สินค้าขึ้นรถเฮี้ยบ(รถที่มีเครนติดอยู่)แทนการลากตู้ไปทั้งใบ ซึ่งถ้าลากตู้ไปทั้งใบก็จะต้องจัดหาเครนหรือ Forklift เพิ่มเติมเพื่อถ่ายสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งทั้งยุ่งยากขั้นตอนกว่าและมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าครับ

ดังนั้นการเลือกใช้การลากตู้หรือขนส่งหน้าตู้จึงขึ้นอยู่กับความต้องการและการวางแผนการขนส่งเพื่อให้ได้ต้นทุนและวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการนำสินค้าของคุณไปส่งยังปลายทางครับ

Previous articleDemurrage / Detention คืออะไร?
Next articleEx-work ข้อควรระวังเมื่อสถานที่รับสินค้าไม่ตรงกับที่อยู่ผู้ขาย
เซลส์เฟรทฯ ผู้หันหลังให้กับ Tele-Marketing มาทุ่มเทให้กับการทำ Online Marketing แบบเต็มตัว