เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา(29/03/58) ผมได้มีโอกาสไปทำพิธีไหว้บรรพบุรุษหรือเชงเม้งนี่แหละครับ ที่ชลบุรีกับครอบครัวและแน่นอนว่าหลังจากไหว้เสร็จคนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะหาอาหารทะเลกินเป็นมื้อเที่ยงก่อนกลับเข้ากรุงเทพ ครอบครัวของผมก็เช่นกันครับ
พวกเราตัดสินใจแวะกินร้านนึงที่ดูดีมีป้ายชื่อร้านว่าเป็นร้านสำหรับคน “กินปู” ต้องมาที่นี่ แถมแปะเพิ่มอีกว่าสาขาสอง เห็นดีกรีแล้วต้องขอแวะซักหน่อยครับ แต่แค่อาหารจานแรก “ข้าวผัดปู” ก็เจอข้าวผัดวิญญาณปูเลยครับ แถมข้าวเย็น ๆ จืดสนิท ต่อด้วยทอดมันแป้งแท้ ๆ กุ้งเผาตัวใหญ่แทรกมาในฝูงกุ้งแคระ ยังดีที่ปูสดแต่ก็ตัวเล็กจิ๋วเชียว ตบด้วยปลาหมึกเหนียวหนึบ(พ่อผมนี่ไม่แตะเลยครับ ฟันไม่มีเคี้ยว ฮาฮา) เป็นอันว่าผมประทับใจน้ำดำอัดลมยี่ห้อเดิมที่รสชาติไม่มีเปลี่ยนมากที่สุด…
เล่ามาจนถึงตอนนี้ คุณและผมคงจะแหยงร้านนี้เท่าๆกันแล้ว ซึ่งที่ผมจะบอกคือในสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ เวลาที่จะสามารถโกยเงินทุนเข้าร้านได้มากที่สุด คงจะหนีไม่พ้นเทศกาลที่ทุกคนต้องใช้บริการ ร้านไหนๆก็ขายได้และร้านไหนๆก็ขายดี โอกาสนี้แหละครับจะโอกาสที่เปิดกว้างมากที่สุด ทุกคนจะสุ่มหาร้านไหนซักร้านนึงและพวกเขาจะจดจำคุณไปตลอดเพราะเป็นโอกาสพิเศษ หน้าที่ของเจ้าของกิจการคือต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เพื่อสร้างการรับรู้ที่ดี ให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ ยิ่งมีของที่ดีมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเร่งให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำได้อีกไวขึ้นเท่านั้น ซึ่งโอกาสตรงนี้เรียกได้ว่าสำคัญมาก ๆ ต้องคว้าไว้สุดชีวิตหากต้องการจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ยิ่งในยุคที่โซเชียลมีเดียไวแค่ “แชะ พิมพ์ โพส” เพื่อนๆของลูกค้าจะมีโอกาสรับรู้ต่อเนื่องไปอีกเป็นทอด ๆ โอกาสก็ยังจะมาอีกต่อเนื่องหลังจากจบเทศกาลภาคบังคับแล้ว ซึ่งตอนที่ลูกค้ามีโอกาสเลือกนี่แหละครับจะเป็นตัววัดผลที่แม่นยำที่สุดว่าธุรกิจของคุณจะไปรอดหรือไม่?
อย่าใช้โอกาสเปลืองในช่วงเวลาแบบนี้นะครับ ยิ่งเศรษฐกิจแย่เท่าไหร่ยิ่งต้องขุดทุกพลังความสามารถออกมาให้ดี ลูกค้าสมัยไหนก็ช่างเลือกอยู่แล้วยิ่งเป็นยุคดิจิทัลแบบนี้ นอกจากจะเลือกเองแล้ว ยังกระจายชื่อเสียงของเราได้ไวแค่ คลิ๊ก เองครับ