จะทำธุรกิจก็ต้องมีเงินทุน แต่เงินทุนเริ่มต้นเท่าไหร่ถึงจะพอให้เราเริ่มธุรกิจนำเข้าได้?…. โชคดีที่โลกนี้มีสินค้าหลากหลายเกรดและลูกค้าหลากหลาย segment การที่เรารู้สึกว่าเงินทุนของเรานั้นไม่เพียงพอต่อการเริ่มธุรกิจ นั่นอาจจะเป็นพราะเรายังมองธุรกิจไม่หลากหลายหรือกว้างมากพอ
ในความเป็นจริง แม้เราจะมีเงินเพียง 0 บาท เราก็สามารถทำธุรกิจนำเข้าส่งออกได้ โดยเราอาจจะเริ่มที่เป็นตัวแทนขายให้กับร้านค้าต่างชาติผ่านแพลตฟอร์มก่อน หรือที่เรียกว่า affiliate ก็ได้ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดีนะครับ บางคนอาจจะบอกว่าไปช่วยต่างชาติมาโกยเงินไทย ซึ่งถ้าใครบอกเราแบบนี้ ให้รีบตอบกลับไปว่า “จริงด้วย งั้นยืมเงิน 2 แสนมาเริ่มธุรกิจหน่อยสิ จะได้ไม่ต้องไปช่วยต่างชาติ” 555 ยันหน้ามันให้หงายไปเลยครับ
คนไม่มีเงินอย่าไปเกี่ยงวิธีการ มีอะไรในมือใช้อันนั้น บนโลกนี้มีเครื่องมือหลากหลายที่จะช่วยให้เราตั้งตัวได้ เพียงแค่เราอย่าไปสนใจอะไรมาก นอกจากอะไรที่จะทำให้เราตั้งตัวได้ จงทำมัน จงทำมัน จงทำมัน
แต่ถ้าคุณมีเงินเก็บซักก้อน และอยากเริ่มทำสินค้าของตัวเองมาขาย ผมแนะนำเงินเย็น ๆ ราว 5 แสนบาทครับ เพราะเวลาสั่งทำ มันจะมีขั้นต่ำเช่น 1,000-100,000 ชิ้น และถ้าจะไปสั่งพี่จีนผลิตสิ่งที่เราคิดว่าเป็นไอเดียที่เจ๋ง ๆ ก็พยายามไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่จีนไว้ซักหน่อย แต่อย่าเข้าข้างตัวเองมากไปนะ ค่าจดมันไม่แพงแต่ก็ไม่ถูก
แต่เอาละครับ หากคุณมีงบน้อยตามหัวข้อเรื่องที่ตั้งไว้ ผมก็ขอแนะนำแบบนี้
เงินทุน 50,000 บาทจะนำเข้าสินค้าได้ยังไง?
นำเข้าได้แน่นอนครับ แต่คุณต้องใช้แรงในการทำมากกว่าคนมีเงินเยอะเลย
เริ่มต้นคุณต้องหาสินค้าที่มีราคารวมกันแล้วไม่เกิน 30,000 บาท และควรจะต้องเป็นราคา FOB นะครับ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องไปหาที่ตลาดจีนเท่านั้น เพราะไม่มีตลาดไหนในโลกที่คุณจะหาสินค้าราคาประมาณนี้ได้
การค้นหาก็ไม่ยาก เวปไซต์จีน alibaba หรือ taobao ก็ได้ พอหาสินค้าได้แล้วก็เริ่มเจรจาซื้อขายกับหลาย ๆ ซัพพลายเออร์ โดยพยายามดูว่าที่ไหนเชื่อถือได้เป็นสำคัญ ซึ่งคำว่าเชื่อถือได้ก็แบบว่า ต้องไม่โกงทั้งเงินและคุณภาพสินค้า หากเป็นไปได้ให้บินไปดูด้วยตัวเองซึ่งค่าเดินทางไปกลับ ค่าที่พัก ค่ากิน จะอยู่ที่ราว ๆ 2 หมื่นบาทบวกลบ แล้วแต่ช่วงไหนหน้าโลว์หน้าไฮของการท่องเที่ยว แต่เราจะไปทำการค้า ไปหน้าโลว์ก็ได้นะครับ ประหยัดให้มากที่สุด
อ่อ… ไปแล้วก็อย่าให้เสียเที่ยว เก็บสตอรี่ทั้งจดบันทึก ถ่ายรูป เอากลับมาทำการตลาดได้อีกนะ แบบชั้นทุ่มเทไปหาของมาเลยนะเว้ย ไม่ใช่พวกสั่งของมาขาย แต่ลุยเองทุกขั้นตอน อย่างน้อยน่าจะพอช่วยให้ขายง่ายขึ้น 10%
ผมสนับสนุนให้ไปนะ คุณจะได้เห็นโลกอีกใบ คนจีนเป็นยังไง ที่ว่ามันมาทุ่มตลาดเรามันจริงรึเปล่า ไปคุยงู ๆ ปลา ๆ โง่ ๆ คุยเลย คนจีนคุยหมดเพราะเค้าอยากขายของไม่เกี่ยงชาติไหน และคนจีนก็ค่อนข้างชอบคนไทยด้วย
พอคุณหาสินค้าได้แล้ว ทีนี้ก็หาที่ปรึกษาสำหรับการขนส่ง ตอนนี้คุณมีงบสำหรับการขนส่งประมาณ 1.5 หมื่นบาท สำหรับ LCL Shipment ต้นทันประมาณนี้มีกจะรวมภาษีอะไรหมดแล้วนะครับ และคุณจะเหลือเงินสดอีก 5 พันบาทเอาไว้แก้ไขปัญหา กรณีมีความผิดพลาด ซึ่งถือว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไป
คุณอาจจะเอาเก็บไว้เป็นงบสำหรับทำการตลาดก็ได้ หรือถ้ารอบนี้มันเจ๊ง อย่างน้อยก็ไม่ต้องเริ่มจาก 0 แต่เริ่มจากหลักพันบาท 😛
หากคุณหาสินค้าได้แล้วยังตัดสินใจไม่ได้ คุณอาจจะลองคุยกับ AI ก็ได้(ผมแนะนำให้ใช้แบบเสียเงินนะครับ แบบฟรีใคร ๆ ก็ใช้กัน จะสู้กับคนอื่นก็พยายามบวกแต้มต่อเอาไว้ให้มากที่สุด) แต่ AI จะไม่เก่งเรื่องการตลาดเท่าไหร่เพราะมันไม่เข้าใจความเป็นคุณ ไม่เข้าใจอารมณ์ของตลาดที่แท้จริง ให้ใช้มันในเรื่องที่เป็นเหตุและผลเยอะหน่อย วิจัยตลาดได้ ไอเดียได้ แต่จะให้วางแผนการตลาด อย่าเด็ดขาด!
ถ้าคุณหาสินค้าได้แล้วอยากหาคนส่งของให้ก็ลองมาคุยกับผมได้นะครับ ผ่านทางอีเมล์ [email protected] หรือจะคุยเรื่องการตลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อเอาไปสรุปในหัวคุณเองอีกที ผมก็พอจะช่วยคุณได้ครับ