การตัดสินใจสั่งซื้อสินค้าล็อตแรก คือก้าวที่น่าตื่นเต้นที่สุดในการทำธุรกิจนำเข้า มันคือจุดที่ไอเดียของคุณกำลังจะกลายเป็นความจริง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นก้าวที่เสี่ยงที่สุดเช่นกัน ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในขั้นตอนนี้อาจส่งผลกระทบต่อเงินทุนและกำลังใจของคุณอย่างมหาศาล
ก่อนที่คุณจะเริ่ม ผมอยากให้คุณใช้ Checklist 10 ข้อนี้ในการตรวจสอบความพร้อมของตัวเองอีกครั้ง ตรวจเช็คสภาพเครื่องบินครั้งสุดท้ายก่อนเทคออฟ เพราะถ้าเทคออฟไปแล้วเกิดปัญหาความเสียหายจะไม่ใช่แค่อุบัติเหตุรถชน ขอให้แน่ใจว่าการเดินทางครั้งแรกของคุณจะราบรื่นและปลอดภัยที่สุดครับ
1. คุณรู้จัก “สินค้า” และ “ตลาด” ของคุณดีพอแล้วหรือยัง?
- [ ] คุณตอบได้ไหมว่าสินค้าของคุณแก้ปัญหาอะไรให้ใคร?
- [ ] คุณได้สำรวจตลาดและคู่แข่งแล้วหรือยัง? ราคาขายในตลาดอยู่ที่เท่าไหร่?
- [ ] อะไรคือ “จุดขาย” ที่แตกต่าง ที่จะทำให้ลูกค้าต้องเลือกซื้อของคุณแทนที่จะเป็นของเจ้าอื่น?
- ทำไมต้องเช็ค: ถ้าคุณยังตอบคำถามพวกนี้ไม่ได้ แสดงว่าคุณกำลังจะลงสนามโดยไม่รู้จักคู่ต่อสู้เลย ซึ่งมันเสี่ยงเกินไปครับ
2. คุณมั่นใจในตัว “ซัพพลายเออร์” คนนี้ 100% แล้วใช่ไหม?
- [ ] คุณได้ตรวจสอบประวัติความน่าเชื่อถือของเขาแล้วหรือยัง? (Verified Supplier, รีวิว, ใบจดทะเบียน)
- [ ] คุณได้สั่ง “ตัวอย่างสินค้า” (Sample) มาดูคุณภาพจริงๆ แล้วหรือยัง?
- [ ] คุณได้ทำความเข้าใจเงื่อนไขการรับประกันหรือนโยบายการเคลมสินค้าของเขาแล้วหรือยัง?
- ทำไมต้องเช็ค: ซัพพลายเออร์คือพาร์ทเนอร์คนสำคัญที่สุด ถ้าเลือกคนผิด ก็เหมือนติดกระดุมเม็ดแรกผิด ทุกอย่างก็จะผิดตามไปหมดครับ
3. คุณคำนวณ “ต้นทุนรวมที่แท้จริง (Landed Cost)” แล้วหรือยัง?
- [ ] คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าต้นทุนสินค้า 1 ชิ้น ไม่ได้มีแค่ราคาหน้าโรงงาน?
- [ ] คุณได้นำค่าขนส่ง, ค่าประกัน (ถ้ามี), และ “ค่าภาษีนำเข้า + VAT 7%” โดยประมาณ มารวมในต้นทุนแล้วหรือยัง?
- [ ] คุณได้คุยกับ Freight Forwarder เพื่อให้เขาช่วยประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วใช่ไหม?
- ทำไมต้องเช็ค: นี่คือตัวเลขที่จะบอกว่าคุณจะ “กำไร” หรือ “ขาดทุน” การคำนวณพลาดในข้อนี้คือสาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้คนเจ๊งครับ
4. คุณรู้ “จุดคุ้มทุน” ของตัวเองแล้วใช่ไหม?
- [ ] คุณรู้ตัวเลขที่แน่นอนแล้วหรือยังว่าต้องขายของ “กี่ชิ้น” ถึงจะเริ่มเท่าทุน?
- [ ] คุณรู้เป้าหมายที่ชัดเจนแล้วใช่ไหมว่าต้องขาย “กี่ชิ้นต่อเดือน” ถึงจะได้กำไรตามที่คุณต้องการ?
- ทำไมต้องเช็ค: ถ้าคุณไม่รู้เป้าหมายของตัวเอง คุณก็จะทำธุรกิจไปวันๆ เหมือนคนขับรถที่ไม่มีจุดหมายปลายทางครับ
- แนะนำให้อ่าน วิเคราะห์จุดคุ้มทุน ต้องขายเท่าไหร่ถึงจะเริ่มเห็นกำไรจากการนำเข้า?
5. คุณจัดสรร “เงินทุน” ตามแผนแล้วหรือยัง?
- [ ] คุณได้วางแผนการใช้งบประมาณอย่างถูกต้องแล้วรึยัง? (ส่วนที่ลงทุนสินค้า ค่าภาษี ขนส่ง ค่าการตลาด เงินสำรองฉุกเฉิน และ อื่น ๆ)
- [ ] คุณพร้อมที่จะจ่ายเงินมัดจำก้อนแรกแล้วใช่ไหม?
- ทำไมต้องเช็ค: เพื่อให้แน่ใจว่าคุณมีสภาพคล่องทางการเงินเพียงพอที่จะรับมือกับทุกสถานการณ์ และจะไม่เกิดปัญหาเงินขาดมือกลางทางครับ
6. คุณมี “พาร์ทเนอร์ด้านการขนส่ง” แล้วหรือยัง?
- [ ] คุณได้เลือก Freight Forwarder หรือตัวแทนออกของ (ชิปปิ้ง) ที่จะมาดูแลการนำเข้าให้คุณแล้วหรือยัง?
- [ ] คุณได้ส่งข้อมูลสินค้าเพื่อให้เขาประเมินค่าใช้จ่ายและตรวจสอบเรื่องเอกสารที่จำเป็นแล้วใช่ไหม?
- ทำไมต้องเช็ค: อย่ารอให้ของมาถึงไทยแล้วค่อยหาคนเคลียร์ของนะครับ คุณต้องมีคนที่ไว้ใจได้เตรียมพร้อมไว้ตั้งแต่ก่อนที่เรือจะออกจากท่าต้นทางครับ
- ตรวจสอบต้นทุนอย่างรอบคอบกับผม ส่งอีเมล์มาที่ [email protected] นะครับ
7. คุณตรวจสอบเรื่อง “เอกสารและใบอนุญาต” แล้วหรือยัง?
- [ ] สินค้าของคุณเป็นสินค้าควบคุมที่ต้องมีใบอนุญาตพิเศษหรือไม่? (เช่น อย., มอก.)
- [ ] (สำหรับสินค้าจากจีน) คุณได้แจ้งซัพพลายเออร์ให้ทำเอกสาร Form E เพื่อใช้สิทธิลดหย่อน/ยกเว้นภาษีแล้วหรือยัง?
- [ ] คุณได้เตรียมเอกสารส่วนตัว (เช่น สำเนาบัตรประชาชน) สำหรับการลงทะเบียนผู้นำเข้า-ส่งออก (Paperless) แล้วหรือยัง?
- ทำไมต้องเช็ค: ปัญหาเรื่องเอกสารคือฝันร้ายที่สุด มันสามารถทำให้ของของคุณติดอยู่ที่ท่าเรือเป็นเดือนๆ และเกิดค่าใช้จ่ายบานปลายได้ครับ
8. คุณมี “แผนการตลาด” รองรับแล้วหรือยัง?
- [ ] คุณจะขายสินค้าของคุณผ่านช่องทางไหน? (Facebook, IG, Shopee, Website?)
- [ ] คุณได้เตรียมคอนเทนต์หรือรูปภาพสำหรับโปรโมทสินค้าไว้ล่วงหน้าแล้วหรือยัง?
- [ ] คุณมีแผนการตลาดในช่วงที่ของกำลังเดินทางมาหรือไม่?
- [ ] คุณมั่นใจในแนวทางการสร้างแบรนด์และวางแผนเรียบร้อยแล้วหรือไม่?
- [ ] ขายไม่ออก(เจ๊งหรือขาดทุน)จะทำยังไง?
- ทำไมต้องเช็ค: อย่ารอให้ของมาถึงแล้วค่อยเริ่มคิดว่าจะขายยังไงครับ การตลาดที่ดีต้องเริ่มต้น “ก่อน” ที่สินค้าจะมาถึงเสมอครับ
9. คุณมีแผนเรื่อง “พื้นที่จัดเก็บสต็อก” แล้วหรือยัง?
- [ ] เมื่อของมาถึง คุณจะเก็บมันไว้ที่ไหน? ที่บ้าน? หรือเช่าคลังสินค้าขนาดเล็ก?
- [ ] พื้นที่นั้นมีความปลอดภัยและเหมาะสมกับสินค้าของคุณหรือไม่?
- ทำไมต้องเช็ค: การวางแผนเรื่องนี้ไว้ล่วงหน้าจะช่วยลดความวุ่นวายในวันที่ของมาส่งถึงหน้าบ้านคุณได้มากครับ
10. คุณมี “แผนสำรอง” ในใจแล้วหรือยัง?
- [ ] ถ้าของมาถึงแล้วคุณภาพไม่ดี คุณจะทำอย่างไร?
- [ ] ถ้าการจัดส่งล่าช้ากว่ากำหนด 2 สัปดาห์ แผนการเงินและการตลาดของคุณจะได้รับผลกระทบแค่ไหน?
- [ ] ถ้าโดนศุลกากรประเมินภาษีสูงกว่าที่คาดไว้ เงินสำรองของคุณเพียงพอหรือไม่?
- ทำไมต้องเช็ค: ธุรกิจคือการบริหารความไม่แน่นอน การคิดถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดไว้ล่วงหน้า จะทำให้คุณไม่ตื่นตระหนกและสามารถรับมือกับปัญหาได้ดีกว่าครับ
ถ้าคุณสามารถติ๊กถูกได้ครบทั้งหมด ผมก็ต้องขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณมีความพร้อมมากกว่ามือใหม่คนอื่นๆ อีกหลายเท่า และพร้อมที่จะก้าวสู่สนามจริงแล้ว ขอให้คุณโชคดีกับการนำเข้าล็อตแรกครับ