ในบรรดา Incoterms ทั้ง 11 เทอม, FCA (Free Carrier) ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเงื่อนไขที่มีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับการค้าสมัยใหม่มากที่สุด บ่อยครั้งที่ FCA ถูกแนะนำให้ใช้แทนที่เทอมดั้งเดิมอย่าง FOB โดยเฉพาะกับการขนส่งสินค้าที่บรรจุในตู้คอนเทนเนอร์
ความพิเศษของ FCA อยู่ที่ความสามารถในการกำหนด “จุดส่งมอบ” ที่หลากหลาย ทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสามารถปรับใช้ให้เข้ากับรูปแบบโลจิสติกส์ของตนเองได้อย่างลงตัว บทความนี้จะเจาะลึกถึงหัวใจของเทอม FCA เพื่อให้คุณเข้าใจว่าทำไมมันถึงเป็นเทอมที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ
FCA (Free Carrier) คืออะไร?
FCA (Free Carrier) คือเงื่อนไขที่ผู้ขายมีหน้าที่ดำเนินพิธีการศุลกากรขาออก และส่งมอบสินค้าให้กับผู้รับขนส่ง (Carrier) ที่ผู้ซื้อเป็นผู้จัดหา ณ สถานที่ที่ได้ระบุชื่อไว้ในสัญญาซื้อขาย
จุดเด่นที่สุดของ FCA คือคำว่า “สถานที่ที่ได้ระบุชื่อไว้” (Named Place) ซึ่งสามารถเป็นได้ 2 รูปแบบหลัก และมีผลต่อจุดสิ้นสุดความรับผิดชอบของผู้ขายโดยตรง
จุดส่งมอบ 2 รูปแบบ: หัวใจสำคัญของเทอม FCA
นี่คือแก่นของเทอม FCA ที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน:
1. กรณีที่ 1: ส่งมอบ ณ สถานที่ของผู้ขาย (Delivery at the Seller’s Premises)
- สถานที่: โรงงาน, คลังสินค้า, หรือพื้นที่ใดๆ ของผู้ขาย
- การส่งมอบจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อ: ผู้ขายได้ทำการ ขนถ่ายสินค้าขึ้นบนยานพาหนะ ที่ผู้ซื้อจัดหามาเพื่อรับสินค้า (เช่น ขนของขึ้นรถบรรทุกของผู้ซื้อ)
- ภาระการขนของขึ้นรถ: เป็นหน้าที่ของ ผู้ขาย
2. กรณีที่ 2: ส่งมอบ ณ สถานที่อื่นที่ระบุไว้ (Delivery at Another Named Place)
- สถานที่: สถานที่ใดๆ ที่ไม่ใช่ของผู้ขาย เช่น คลังสินค้าของ Freight Forwarder, ท่าเรือ, สนามบิน, หรือสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (CFS/CY)
- การส่งมอบจะเสร็จสมบูรณ์เมื่อ: ยานพาหนะของผู้ขายที่บรรทุกสินค้าได้เดินทางไปถึงสถานที่นั้น และสินค้าอยู่ ในสภาพพร้อมที่จะให้ทำการขนถ่ายลงจากรถ (Ready for Unloading)
- ภาระการขนของลงจากรถ: เป็นหน้าที่ของ ผู้ซื้อ
การแบ่งหน้าที่และความรับผิดชอบ
หน้าที่ของผู้ขาย (Seller’s Obligations):
- ดำเนินพิธีการศุลกากรขาออก และรับผิดชอบค่าใช้จ่าย
- ส่งมอบสินค้าตามรูปแบบและสถานที่ที่ตกลงกัน (ตาม 2 กรณีข้างต้น)
- รับผิดชอบการโหลดสินค้าขึ้นรถ (กรณีส่งมอบ ณ สถานที่ของผู้ขาย)
หน้าที่ของผู้ซื้อ (Buyer’s Obligations):
- ทำสัญญาและชำระค่าขนส่งหลัก (Main Carriage) จากจุดที่รับมอบสินค้า
- รับผิดชอบการขนถ่ายสินค้าลงจากรถ (กรณีส่งมอบ ณ สถานที่อื่น)
- รับความเสี่ยงทั้งหมดหลังจากสินค้าถูกส่งมอบแล้ว
- ทำประกันภัยการขนส่ง (หากต้องการ)
- ดำเนินพิธีการศุลกากรขาเข้าและชำระภาษีอากร
ข้อควรรู้ใน Incoterms 2020: FCA กับเอกสาร Bill of Lading (B/L)
Incoterms 2020 ได้เพิ่มทางเลือกใหม่เพื่อแก้ปัญหาในการชำระเงินด้วย L/C (Letter of Credit) ซึ่งธนาคารมักต้องการใบตราส่งสินค้าทางเรือ (B/L) ที่มีคำว่า “On-Board” (สินค้าขึ้นเรือแล้ว) แต่ความรับผิดชอบของผู้ขายในเทอม FCA สิ้นสุดลงก่อนที่สินค้าจะขึ้นเรือ
- ทางแก้ปัญหา: ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถตกลงกันให้ผู้ซื้อสั่งผู้รับขนส่ง (สายเรือ) ให้ออก B/L ที่มีสัญลักษณ์ “On-Board” ให้แก่ผู้ขายได้ หลังจากที่สินค้าได้ถูกโหลดขึ้นเรือเรียบร้อยแล้ว ซึ่งช่วยให้ผู้ขายสามารถนำเอกสารไปขึ้นเงินกับธนาคารได้
ตัวอย่างสถานการณ์การใช้เทอม FCA
บริษัท “เทคเกียร์” ในไทยสั่งซื้อชิ้นส่วนหุ่นยนต์จากซัพพลายเออร์ในเยอรมนี
- สถานการณ์ A: ใช้เทอม FCA Factory, Stuttgart, Germany
- ซัพพลายเออร์เยอรมัน (ผู้ขาย) รับผิดชอบทำพิธีการส่งออก และ โหลด ชิ้นส่วนหุ่นยนต์ขึ้นบนรถบรรทุกที่ “เทคเกียร์” (ผู้ซื้อ) ส่งมารับที่โรงงานในเมืองสตุทการ์ท
- การส่งมอบและความเสี่ยงโอนไปยัง “เทคเกียร์” ทันทีที่ของถูกโหลดขึ้นรถเรียบร้อย
- สถานการณ์ B: ใช้เทอม FCA Forwarder’s Warehouse, Hamburg, Germany
- “เทคเกียร์” (ผู้ซื้อ) สั่งให้ซัพพลายเออร์ (ผู้ขาย) นำของไปส่งที่คลังสินค้าของ Freight Forwarder ที่ตนเองเลือกไว้ในเมืองฮัมบูร์ก
- ผู้ขายรับผิดชอบทำพิธีการส่งออกและขับรถบรรทุกนำสินค้าไปส่งถึงคลังสินค้าดังกล่าว
- การส่งมอบและความเสี่ยงโอนไปยัง “เทคเกียร์” เมื่อรถบรรทุกของผู้ขายไปถึงและจอดในสภาพ พร้อมให้ “เทคเกียร์” ขนของลง
บทสรุป
FCA คือเทอมที่มีความยืดหยุ่นสูงและสะท้อนภาพการขนส่งในปัจจุบันได้ดีที่สุด มันมอบความชัดเจนและลดความเสี่ยงให้ผู้ขายได้ดีกว่าเทอม FOB (สำหรับสินค้าตู้คอนเทนเนอร์) และให้อิสระแก่ผู้ซื้อในการควบคุมค่าขนส่งหลักได้ดีกว่ากลุ่ม C-Terms จึงไม่น่าแปลกใจที่ FCA เป็นหนึ่งในเทอมที่ได้รับการแนะนำมากที่สุด